ในห้องขนาดสามคูณสามที่มีผ้าม่านปิด บนเตียงแบบนอนสองคน ผมกำลังเอนหลังพิมพ์บล็อกนี้อยู่ด้วยมือข้างเดียว ผมไม่ได้เป็นเดชไอ้ด้วน และพิมพ์โคตรลำบาก แต่เพราะแขนอีกข้างผมอุทิศให้อาการเหน็บชาและศีรษะของผู้หญิงคนหนึ่งไปแล้ว หวังว่าคุณคงจะเข้าใจ

นี่ไม่เชิงไดอารี่ เพราะผมคงไม่ได้มาเขียนทุกวัน อาจจะเป็นการบันทึกเศษเสี้ยวความคิดที่ผมอยากจะจำและทำเดี๋ยวนั้นเลยแต่มันยังทำไม่ได้ หรือไม่ก็ผมอยากจะได้ช่วงเวลาที่เรียบเรียงความคิดที่ฟุ้งกระจายให้กระจ่างมากขึ้น

ผมกำลังคิดถึงเรื่องแต่งงาน หากแต่ไม่ใช่การแต่งงานของผม ของผมน่าจะแต่งกับงานแบบตรงตัวแน่ยิ่งกว่าแช่แป้ง แต่คนข้างๆ ผมเขาแต่งกับคน แต่ก็เพราะนั่นล่ะ มันถึงเป็นปัญหาของผมไง เธอเป็นผู้หญิงที่น่ารัก นิสัยไม่ดี แต่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและคนที่เธอมองเป็นครอบครัวสูงยิ่งกว่าอะไร สิ่งเดียวที่เหมือนจะไม่ค่อยดีคือการที่เธอค่อนข้างอ่อนไหวกับความรู้สึกผิดและการชดใช้พอๆ กับยึดคติ gift and take นอกจากนี้ เธอเป็นคนไม่ศรัทธารักระยะไกล พูดถึงตรงนี้ผมคิดว่าคุณคงอาจจะพอรู้แล้วว่าทำไมเราถึงไม่ลงเอยกัน

ผมเคยคิดพยายามตัดขาดจากเธอโดยการไม่ติดต่อไป แต่ไม่ต่างอะไรกับที่เขาเรียกว่ากลับไปตายคารัง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผมไม่เคยใจแข็งพอที่จะลบเบอร์เธอหรือตัดการช่องทางการติดต่อทิ้งอย่างเด็ดขาดและถาวร ผมทำมันได้ แต่พอคิดถึงเส้นด้ายที่บางแต่เหนียวระหว่างเธอกับผมขึ้นมาทีไร มือผมมันก็กดปุ่มไม่ไปทุกที ไม่รู้สิ อาจเป็นเพราะโนเกียรุ่นปาหัวหมาล้มตายของผมมันใกล้หมดอายุการใช้งานแล้วก็ได้เลยอยากจะทำอะไรก็ไม่ได้ดั่งใจไปซะเฉยๆ

เอาเป็นว่าสุดท้ายแล้วผมก็เลยต้องกลับไปหาเธออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

Standard